“เรย่า- รัชยา นิลกรรณ์” เปิดเรื่องราวชีวิต กว่าจะเป็น “RAYYA TAX AGENT” บริษัทบัญชีคนไทยรายแรกที่ออสเตรเลีย
ใครที่เคยอาศัยอยู่ประเทศออสเตรเลีย น้อยคนที่จะไม่รู้จักสาวคนนี้
“เรย่า- รัชยา นิลกรรณ์” เจ้าของสำนักงานบัญชีคนไทยบริษัทแรกในประเทศออสเตรเลีย
RAYYA TAX AGENT ถือเป็นสำนักงานบัญชีอันดับหนึ่งที่คนไทยรู้จักมากว่า 20 ปี
ล่าสุดเธอเผยเรื่องราวชีวิตที่ต้องผ่านอุปสรรคต่าง ๆ
กว่าจะเป็นที่รู้จักของคนไทยในออสเตรเลีย
พร้อมเผยเคล็ดลับการใช้ชีวิตกว่าจะประสบความสำเร็จ ทำทุกสิ่งด้วยความรัก
มีสติทุกขณะ สร้างมิตรภาพระหว่างทางเสมอ
“เรย่า-
รัชยา นิลกรรณ์” เกิดในต้นตระกูลที่รับราชการ และรักการส่งเสริมด้านการศึกษา โดยบิดา
สืบเชื้อสายจากข้าหลวงรับใช้ในวัง ในสมัยรัชกาลที่ 5 ด้านมารดาเป็นหลานสาว ของ ท่านขุน
ประโยชน์ บ่อยาง แพทย์แผนโบราณชื่อดังของจังหวัดสงขลา
และ ตระกูลจามิกรณ์ จึงทำให้คุณพ่อคุณแม่ค่อนข้างเข้มงวดโดยเฉพาะด้านการเรียน
โดย “เรย่า- รัชยา นิลกรรณ์” เผยว่า
“เนื่องจากคุณพ่อคุณแม่อยู่สายวิชาการ ชีวิตของเรย่าเลยค่อนข้างอยู่ในระเบียบวินัย
ตอนนั้นสิ่งที่ทางบ้านขอคือ ตั้งใจเรียนให้เก่งอย่างเดียว จะมีอิสระจริงๆ
ตอนมาเรียนมัธยมปลาย ที่ประเทศนิวซีแลนด์ ตอนนั้นคุณพ่อยอมปล่อยให้มาเรียน เพราะท่านต้องการส่งเสริมเรื่องภาษาอังกฤษด้วย
พอเราได้ใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ ทำให้เราโตขึ้น ได้รู้ว่าชีวิตของคนเรา
ไม่ได้มีแค่เรื่องการเรียน แต่มีเรื่องของการคบมิตร เข้าสังคม
การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ฝึกให้ตนเองรู้จักอยู่รอดในทุกสังคมซึ่งถือเป็นประสบการณ์ชีวิตทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น
และกล้าคิดกล้าทำกล้าตัดสินใจมากขึ้น
แต่การตัดสินใจของเราก็ยังคงอยู่ในกรอบที่ทางบ้านให้คำแนะนำอยู่”
เรย่าเล่าต่อถึงโอกาสที่จะเข้าสู่วงการบันเทิง
“ตอนนั้นมีโอกาส
ทางงานสายบันเทิงค่อนข้างมาก อาจเพราะเรามีหน้าตา สีผิว ค่อนข้างแปลกในยุคนั้น
ไทยฝรั่งก็ไม่ใช่ แขกก็ไม่เชิง ได้มีโอกาสเข้าประกวดแพรว ช่วงปี 1996 (2539) รุ่นปูเป้ รามาวดี สิริสุขะ ซึ่งเป็นเพื่อนกันตอนประถมด้วย พอเราติด 1 ในร้อย ต้องคัดรอบเหลือ 50 คน
แต่ตอนนั้นตัดสินใจออกจากกองประกวดเลยไม่ประกวดต่อ เพราะไม่กล้าใส่ขาสั้นมากๆ
กลัวโดนคุณพ่อดุด้วย เนื่องจากคุณพ่อคุณปู่ และคุณทวดท่านเป็นทหารมาก่อนจึงทำให้ท่านค่อนข้างเคร่งครัด
และยังไม่ค่อยเปิดรับกับเรื่องแบบนี้ เราเลยตัดสินใจไม่ไปต่ออ อีกทั้งเราไม่ได้ขออนุญาตทางบ้านก่อนประกวดด้วย
หลังจากนั้นมีพี่ๆมาติดต่อให้ไปประกวดเปรียว รวมถึงนางสาวไทยแต่ก็ปฏิเสธไป ซึ่งระหว่างนั้นเรายังมีโอกาสได้ทำงานเป็น
mc ของเบนซ์ธนบุรีอยู่
2 ปี ในงานมอเตอร์โชว์ และเคยไปอยู่กับช่อง 3 เป็นนักเรียนการแสดงด้วยค่ะ กำลังจะได้เล่นละคร แต่ตอนนั้นได้คุยกับคุณแม่
และครอบครัวท่านไม่อยากให้เราอยู่ที่นี่ อยากให้กลับไปเรียนต่อต่างประเทศ เราเลยตัดสินใจกลับไปเรียนต่อในวิชาชีพบัญชี
เรียนเป็นผู้สอบบัญชี ซึ่งเป็นสายงานเดียวกับทางบ้าน และเป็นเรื่องโชคดีอีกอย่างที่เป็นโอกาส
เพราะตอนนั้นทางประเทศออสเตรเลีย ต้องการประชากรที่เรียนฝ่ายบัญชี เขาขาดแคลนสายอาชีพนี้
และต้องการอย่างมากพอเราเรียนจบ จึงทำให้เราสามารถสมัครเป็นคนอาศัยอยู่ถาวรของประเทศออสเตรเลียได้เลย”
“ช่วงเริ่มต้นทำบัญชีบริษัท
ตอนนั้นเราทำบริษัทร่วมกับอดีตสามี ที่เรียนจบมาด้วยกัน จริงๆแล้วก่อนเรียนจบ เราได้เริ่มทำพาร์ทไทม์
เป็นนักบัญชีให้กับบริษัทออสเตรเลีย อยู่ 2-3 ปี
พอเรียนจบก็ตัดสินใจมองเห็นโอกาสว่าเราได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษนะ
และในขณะนั้นไม่มีนักบัญชีหรือสำนักงานบัญชีคนไทยแท้ๆเลย อีกทั้งคนไทยในออสเตรเลียมีจำนวนมากก็ทั้งที่เป็นนักเรียน
ทำธุรกิจเจ้าของร้านนวด ร้านอาหาร เอเย่นต์ศึกษาต่อต่างประเทศ ร้านขายของชำ
ร้านวิดีโอไทยเรามองเห็นโอกาสตรงนี้ส่วนอดีตสามี
เขาก็ได้ใบอนุญาตในการทำวีซ่าของประเทศออสเตรเลีย
เราเลยตัดสินใจออกมาเปิดออฟฟิศด้วยกัน ตอนนั้น พอดีมีพี่เจ้าของหนังสือพิมพ์ไทยในออสเตรเลียเห็นแววของเรา
ว่าเราสามารถให้ความรู้กับคนไทยได้ เลยให้โอกาสเราเขียนบทความ จำได้เลยว่า หนังสือพิมพ์ไทยมีเดีย
เป็นหนังสือพิมพ์แรกที่เราเขียนบทความให้ เราได้เขียยนบทความเกี่ยวกับการให้ความรู้เกี่ยวกับการทำธุรกิจ
กฎหมายภาษี ที่คนไทยต้องรู้ ให้ความรู้นักเรียนไทย เรื่องการทำงานค่าแรง พอหนังสือพิมพ์ฉบับแรกวางแผนเท่านั้น
ตอนนั้นเราตื่นเต้นมากเราหยิบหนังสือพิมพ์นี้ที่มีหน้าเราในบทความ
เดินไปตามร้านคนไทย ไปคุยกับเขาไปเปิดหนังสือพิมพ์ให้เขาดูและแนะนำตัวเอง
ตอนนั้นมีความกล้ามากไฟแรง ได้ลูกค้ามาเป็นขบวนเลยค่ะ
จากนั้นหนังสือพิมพ์ไทยทุกฉบับของประเทศออสเตรเลีย ได้มาติดต่อให้เราเขียนบทความให้
ซึ่งเป็นโอกาสทำให้เราเป็นที่รู้จักของคนไทยในออสเตรเลีย
และเราเริ่มมีลูกค้าเพิ่มขึ้น จำได้ว่า เปลี่ยนออฟฟิศทุกปี 3 ปีเปลี่ยนออฟฟิศ 4 รอบ ขยายไม่ทัน พนักงานมากขึ้นลูกค้ามากขึ้น
จนเป็นที่รู้จัก ของสังคมไทยในประเทศออสเตรเลีย เราถือว่าเราเป็นอันดับ 1 และเป็นสำนักงานบัญชีคนไทยบริษัทแรกของประเทศออสเตรเลียค่ะ
ซึ่งเราได้เริ่มต้นทำบริษัทบัญชีตั้งแต่ตอนนั้น โดยเราเป็นผู้สอบบัญชีที่ได้รับอนุญาต
รวมทั้งผู้สอบบัญชีภาษีอากร ของประเทศออสเตรเลีย จนตอนนี้ 20 ปีแล้วค่ะ
ที่เราเริ่มต้นการทำทำธุรกิจด้านบัญชีและภาษีที่ประเทศออสเตรเลีย”
เรย่าเล่าถึงวิกฤติของชีวิต “ช่วงวิกฤติของชีวิตน่าจะเป็นช่วงที่เรย่าเลิกกับสามีแล้วกลับมาไทย
ตอนนั้นเราคิดว่าเราหมดกำลังใจ เพราะเราป่วยด้วย
แต่สุดท้ายเพราะกำลังใจจากคนรอบข้าง และเราคิดว่าเราต้องสู้ต่อเพื่อคุณพ่อ
และลูกของเรา เราเลยกลับมาฟอร์มทีมอีกครั้งภ่ายใต้ชื่อ สำนักงานบัญชี “RAYYA
TAX AGENT” ออสเตรเลีย
ซึ่งเราพึ่งกลับมาเริ่มดำเนินการเมื่อปีที่ผ่านมาหลังจากโควิดเรายังไมได้โปรโมทเต็มที่
แต่ปรากฎว่าพอทุกคนรู้ว่าเรากลับมาเริ่มอีกครั้งกลับได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี
ลูกค้าที่เคยทำกับเรากลับมา และเกิดการบอกต่อ
ไม่คิดว่าปีแรกเราจะประสบความสำเร็จเกินคาด และ นั่นคือของขวัญและกำลังใจสำหรับเรย่า
ที่ทำให้เราอยากกลับมาสู้อีกครั้ง รวมถึงอยากกลับมาดูแลพี่ ๆ น้อง ๆ
และลูกค้าของเรย่าทุกคน เรย่ามีคติสำหรับการทำงาน
นั้นคือ ทำทุกสิ่งด้วยความรัก มีสติทุกขณะ สร้างมิตรภาพระหว่างทางเสมอ
สำหรับใครที่หมดกำลังใจในการทำงาน
เรย่าอยากบอกทุกคน ว่า ความอดทนเป็นบารมีอย่างหนึ่ง ถ้าผ่าน คอมฟอร์ทโซนได้
ก็จะพัฒนาไปอีกก้าวหนึ่ง งานเป็นเพียงส่วนหนึ่งในชีวิต
ความสุขในชีวิตเกิดจากความสมดุลหลายด้าน
ให้ใช้ชีวิตอย่างสมดุลย์และความอิ่มอกอิ่มใจจะมาเอง
และสำหรับใครที่อยากปรึกษาเรย่าเรื่องบัญชีสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Line AO : @rayyataxagent”
เรย่า รัชยา กล่าวทิ้งท้าย
Post a Comment